เธอเคยกางร่ม แล้วฝนหยุดตกไหม?
เธอเคยกางร่ม แล้วฝนหยุดตกไหม?
คิดว่าไม่เคย เจ้ก็ไม่เคยเหมือนกัน
ก็เพราะร่มออกแบบมาให้ “กันฝน”
ร่มไม่ใช่ไอเท็มวิเศษไว้ “หยุดฝน”
ร่มทำให้เราเดินกลางฝนได้
ร่มทำให้เราเปียกฝนน้อยลง
แต่เราก็ยังเปียกฝนอยู่ดี
แล้ว... มันเกี่ยวอะไรคะเจ้?
ชีพิมพ์ถามกลับมา
ความเข้าใจก็เหมือนร่มไงเธอ
มีไว้กาง ให้เราเดินท่ามกลางความเศร้า
แต่ถ้าร่มมันทำให้ฝนหยุดไม่ได้
ความเข้าใจก็ไม่ได้ทำให้เราหยุดเศร้าได้เช่นกัน
………
“ขอบคุณเจ้ที่เขียนเรื่อง 2(คิดถึง) + 1(เสียดาย) นะคะ หนูเข้าใจความเศร้าจากการสูญเสียของหนูไปได้เยอะเลย หนูขอไม่เล่ายาวแล้วกัน กลัวจะรบกวนเจ้ แล้วก็มีรายละเอียดหลายอย่างที่ไม่อยากเล่า
แต่หนูสงสัยว่า ในเมื่อหนูเข้าใจแล้ว หนูแตกพจน์แล้ว หนูรู้แนวทางแล้วว่าจะทำยังไงต่อไป ทำไมหนูไม่หายเศร้าเสียทีคะเจ้ หนูยังคงเศร้าต่อเนื่องอยู่เลย
หวังว่าเจ้จะตอบหนูนะคะ”
ข้อความนี้เด้งขึ้นมาวันนี้ตอนบ่าย เป็นเวลาที่เจ้ว่างพอดี เลยเปิดคอมจะพิมพ์ตอบนางกลับไป
เออ… แล้วจะตอบนางยังไงดี?
นึกไม่ออกแฮะ เลยหันออกไปมองนอกหน้าต่าง เห็นเมฆฝนเริ่มตั้งเค้ามาละ ดีนะวันนี้ที่พกร่มมาด้วย กลับบ้านจะได้ไม่เปียกมากนัก
เออ… นี้ไง ร่มกับฝน …
คิดได้แล้วเจ้เลยรีบหันมาพิมพ์ตอบนาง
“เวลาฝนตก แล้วหนูเดินกลางฝนหนูเปียกไหมจ๊ะ?”
กำลังจะพิมพ์ขึ้นบรรทัดใหม่ แต่ด้วยความเคยชินน่ะนะ นิ้วก้อยมันเลยไปกดปุ่มเอนเทอร์ เลยกลายเป็นส่งข้อความคำถามสั้นๆนั้นไปเสียนี่
พลาดไปแล้ว ไม่เป็นไร เอาใหม่ เจ้ขยับจะพิมพ์ข้อความใหม่อีกที แต่นางก็ read และชิงพิมพ์ตอบกลับมาก่อน “เปียกค่ะเจ้ เจ้ถามทำไมกันคะ”
โอเค แสดงว่านางก็คงว่างเหมือนกัน เจ้เลยพิมพ์ตอบกลับไปเหมือนแชทกัน “แล้วถ้าเธอต้องเดินกลาง เธอกางร่มไหม?” ชีพิมพ์ตอบกลับมา “กางค่ะ บางทีก็ใส่เสื้อกันฝนค่ะ”
“เธอกางร่มทำไมล่ะ?”
“กันฝนไงคะ กันเปียก”
“แล้วมันยังเปียกอยู่ไหม?”
“เปียกค่ะ แต่ไม่มากเท่าไหร่”
“งั้นร่มก็เป็นของใช้กันฝนเนอะ”
“ใช่สิคะ เป็นของใช้กันฝน”
“เธอเคยกางร่มเพื่อให้ฝนหยุดตกไหม?”
“ไม่เคยค่ะเจ้ เอ่อ.. เจ้ถามทำไมเหรอคะ?”
เสียงฟ้าร้อง ดังมาจากข้างนอก
เจ้มองลอดมู่ลี่หน้าต่างไป ฝนเริ่มลงเม็ด
หน่วยตรวจยังว่าง ไม่มีคนไข้ เจ้หันกลับมาพิมพ์ตอบ
เพราะร่มออกแบบมาให้ กันฝน
ร่มไม่ใช่ไอเท็มวิเศษไว้ หยุดฝน
ร่มทำให้เราเดินกลางฝนได้
ร่มทำให้เราเปียกฝนน้อยลง
แต่เราก็ยังเปียกฝนอยู่ดี
ความเข้าใจก็เหมือนร่มไงเธอ
มีไว้กาง ให้เราเดินท่ามกลางฝนแห่งความเศร้า
ไม่ได้มีไว้กาง แล้วหยุดฝนแห่งความเศร้าไม่ให้มันตก
การที่เจ้หยิบยื่นความเข้าใจให้เธอ ผ่านบทความในเพจ มันก็เหมือนเจ้ยื่นร่มให้เธอนั่นแหละ เจ้คือคนแจกร่ม เจ้คือคนแจกความเข้าใจ เจ้ไม่ใช่คนหยุดฝน
พอเมื่อฝนแห่งความเศร้าตก อย่างน้อยเธอก็กางร่มแห่งความเข้าใจ แล้วเดินฝ่ามันไปได้ โอเค มันเปียก แต่ถึงเปียก ก็เปียกไม่มาก ไม่หนาวตาย เสื้อผ้าข้าวของไม่เปียกเสียหายไปกับฝน
แต่เพราะฝนไม่เคยหยุดตก
เพราะว่าคนกางร่ม
ดังนั้นความเศร้าก็จะไม่หยุด
เพียงแค่เพราะเราเข้าใจมันหรอกจ้ะ
เพราะเราทุกคน
ต้องเดินฝ่าฝนกลับบ้านทั้งนั้น
ถ้าฝนตก เดินฝ่าฝนยังไงก็ต้องเปียก
เพราะเราทุกคน
ต้องผ่านความเศร้าให้ได้ทั้งนั้น
ถ้ามันเศร้า จะผ่านมันไปยังไงก็ต้องเศร้า
ความเข้าใจก็เหมือนร่มนั่นแหละ
มีไว้กาง ให้เราเดินท่ามกลางความเศร้า
แต่ถ้าร่มมันทำให้ฝนหยุดไม่ได้
ความเข้าใจก็ไม่ได้ทำให้เราหยุดเศร้าได้เช่นกัน
ให้ข้อคิดได้ดีมากๆ นะคะ
เราหยุดความทุกข์ไม่ได้แต่ถ้าเราเข้าใจมัน ความทุกข์นั้นก็จะส่งผลกระทบกับเราน้อยลง
สวัสดีค่ะ เราพบบทความนี้จาก เฟสบุค https://www.facebook.com/search/top/?q=%E0%B9%80%E0%B8%98%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A1%20%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%9D%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A1%3F หากนี่คือบทความของคุณเอง โปรดแจ้งทางเราด้วยค่ะ แต่ถ้านี่ไม่ใช่บทความของคุณ โปรดระวัง ถ้าเจ้าของบทความเอาเรื่องขึ้นมาล่ะก็ คุณจะเดือดร้อน กฎหมาย ดิจิตัลตีฟ รุณแรงนัก และที่นี่คุณไม่สามารถลบโพสต์ได้...และหากคุณยังไม่แจ้งข้อเท็จจริง ทางเราก็ยังโหวตให้คุณไม่ได้