Thai living in USA (ชีวิตคนไทยในอเมริกา)steemCreated with Sketch.

in #life3 years ago (edited)

Hi Everyone,

สวัสดีทุกคน @steemthai วันนี้จะมาพูดคุยเกี่ยวกับชีวิตคนไทยในอเมริกา อเมริกาเป็นประเทศที่ทุกคนฝันอยากจะได้มาเหยียบหรือ ท่องเที่ยว หรืออยากจะไปทำงาน ในวันแรกที่ฉันได้ไปอเมริกาคือเมื่อปี 2005 ฉันไปด้วยวีซ่าคู่หมั้น วีซ่าผ่านฉันก็บินไปอเมริกาในวันรุ่งขึ้นเลย วันแรกที่ฉันไปถึงอเมริกาคือที่สนามบิน ซานฟรานซิสโก เป็นสนามบินที่ใหญ่มากๆ เป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจและตื่นเต้นมากๆ

50B0A942-3783-4503-9358-5918D8642101.jpeg

พอฉันไปเอากระเป๋าเดินทาง รับของทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต่อไปคือฉันต้องเดินไปที่ ตม เพื่อตรวจเอกสารคนเข้าเมือง พร้อมกับยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลที่ทางกงสุลไทยให้มาพร้อมติดผลึกหนาแน่นและห้ามเปิด ฉันเดินมาถึงที่ช่อง ตม ระหว่างฉันยืนรอ ใจฉันก็ตื่นแรงมากๆ กลัวไปหมด อีกอย่าง เรื่องของภาษาอังกฤษ เราก็ไม่เป็นอะไรเลย พออ่านได้บางคำ พอฟังได้บางคำ พอเจ้าหน้าที่เรียก เขาก็ชี้ไปที่ ซองสีน้ำตาล เราก็ยื่นให้ เจ้าหน้าที่ก็เปิดดูทุกแผ่นกระดาษเลย ซึ่งมีเป็นร้อยแผ่น และเขาก็มองหน้าเรา หลายครั้ง เราก็ยิ้มอย่างเดียว ได้ยินเขาถามว่า ไปหาใคร ฉันก็พอจะเข้าใจ ได้แค่ตอบสั้นๆ ว่า คู่หมั้นฉัน และเจ้าหน้าที่ ก็ถามต่อ จะอยู่นานไหม ฉันก็ตอบกลับว่า สัก หกเดือนก่อน หลังจากนั่นเขาก็ให้เราพิมพ์ลายนิ้วมือ และถ่ายรูป และยื่นหนังสือเดินไทยคืนให้ ส่วนซองสีน้ำตาล เจ้าหน้าที่ ตม เก็บไป

23595F9E-D87B-4E1C-9DDE-B93C64A48116.jpeg
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ พูดว่า ยินดีต้อนรับสู่อเมริกา โอ้ย ฉันนี่รู้สึกโล่งใจไปอีกค่อนทางเลย ฉันก็เข็นกระเป๋าหาทางออก พออ่านได้ว่า exit พอแปลได้ 555 พอเดินออกมา อ้าว แฟนเราไปยืนรอตรงใหนหน่อหากันไม่เจอ ตายละ เงินดอลลาร์ก็ไม่มีสักเหรียญ โทรศัพท์ก็ไม่มี จะทำยังไงดีหว่า ใจก็คิดเลย มันหลอกตรูมาขายเปล่าหว่า😂 ใจก็เต้นแรงขึ้น จะทำยังไงดีหว่า

84A934D4-E756-4800-8861-3982653B8AFE.jpeg
ด้วยความที่โชคดี ตอนที่นั่งบนเครื่องเรามีเพื่อนนั่งมาข้างๆเป็นชาวพม่า ที่เขาพอจะคุยไทยได้บ้าง ฉันพยายามเดินตามเขาทุกที่ เกาะเขาไปทุกที่ ตอนที่ขาออก ฉันได้หลงทางกับ เขา ระหว่างที่ฉันเดินหาแฟนฉันอยู่นั้น ก็ได้เจอกับชาวพม่าคนนี้อีก เขาถามฉันว่า แฟนคุณมายัง ฉันก็ตอบ ยังเลย หรือว่า เขามาแล้ว ฉันไม่ยังไม่เจอเขา ชาวพม่าคนนี้ก็ยืนโทรศัพท์ให้ เขาถามว่า มีเบอร์แฟนไหม พอดีฉันมีเบอร์แฟนติดกระเป๋าไปด้วย เลยให้ชาวพม่า กดเบอร์ให้และโทรหาแฟน แฟนรับสาย ได้ยินเขาคุยภาษาอังกฤษกัน เหมือนบอกทางกันว่า ฉันยืนรอตรงนี้ตรงนั้น พอสัก ห้า หรือ สิบนาที ก็เห็นแฟนฉันเดินมา ฉันรู้สึกดีใจมากๆจนน้ำตาไหล แฟนและฉัน ขอบคุณชาวพม่าคนนั้นยกใหญ่เลยบุญคุณจะไม่ลืมกันเลย

7D4F1FD0-1ABD-4587-9B6D-624334E334EF.jpeg
ฉันไ้ด้ถามเพื่อนชาวพม่าคนนั้นว่าอยู่เมืองอะไร เขาบอกว่า เขาอยู่ในเมือง ซานฟรานซิสโกนี่แหละ ไม่ไกลจากสนามบินเท่าไหร่ เขาก็รอครอบครัวเขามารับเช่นกัน แต่เขาอยู่อเมริกานานแล้ว ส่วนตัวฉันออกนอกเมือง ไกลจากสนามบิน ประมาณ 45นาที ถ้ารถติดก็เป็นชั่วโมง หลังจากนั้นฉันได้ขออีเมลและเบอร์ของเขาไว้ และพวกเราก็แยกย้ายกัน ฉันรู้สึกโล่งและสบายใจมากขึ้น ระหว่างทางนั่งในรถส ก็มองไปรอบๆข้างทาง คิดในใจนี่หรืออเมริกา ทำไมเหมือนกรุงเทพบ้านเราจังเลย รถติด วุ่นวายจัง ในใจก็แอบคิดถึงครอบครัวแล้ว แต่วันแรกเอง
EDEBCD4E-F442-401F-9C03-275AF58294AD.jpeg
พอถึงบ้านก็จัดการลื้อกระเป๋าเดินทาง จัดข้าวของเข้าตู้ที่แฟนจัดไว้ให้ ไม่มีรูปให้ดู ตอนนั้นไม่มีโทรศัพท์อะไรเลย บ้านสวย สี่ห้องนอน บ้านสองชั้น ฉันรู้เพลียและง่วงนอนมากๆ เป็นเพราะเราสับเปลี่ยนเวลากินเวลานอน ฉันนอนกลางวันเวลาที่อเมริกาเพราะเป็นเวลากลางคืนที่ประเทศไทย และตื่นตอนกลางคืนเวลาอเมริกากว่าจะปรับตัวได้ สองอาทิตย์

38F7CC21-575D-4C09-8B72-1B1A21C1E4EF.jpeg

โพสต์นี้เอาเท่านี้ก่อน ไว้ครั้งหน้าจะมาเล่าต่อ สนุกแน่นอน ภาพไม่ค่อยจะเข้าเรื่องเท่าไหร่ เมื่อสิบกว่าปีก่อนไม่มีสมาร์ทโฟน ที่ใช้ก็ใช้โทรเข้าโทรออกจริงๆ พอก่อนๆๆ ต่อโพสต์หน้าละกัน 🇹🇭😂

Sort:  

รอติดตามครับพี่กุ้ง เรื่องราวน่าตื่นเต้นครับ

มาตอบช้าหน่อย เพราะโดนเรียกตัวไปทำงานกะทันหัน มีอะไรอะไรตื่นเต้นอีกเยอะ